วันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปเป็นพิธีกรงาน Kick off โครงการ '30 บาทรักษาทุกที่ ระยะที่ 4' มาครับ งานจัดที่ทำเนียบรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารองค์กรและนายกสภาวิชาชีพต่างๆเข้าร่วมด้วย
.
สาระสำคัญคือการเดินหน้าโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ครอบคลุม77 จังหวัดของประเทศ เริ่ม 1 มกราคม 2568 โดยประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองภายใต้เกณฑ์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สามารถใช้สิทธิบัตรทองกับสถาให้บริการปฐมภูมิ ร้านขายยาและคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการใกล้บ้านได้ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้เยอะเลยครับ
.
การขอใช้บริการเพียงแสดงบัตรประชาชนหรือแสดงตนด้วยแอปพลิเคชั่น 'ทางรัฐ' ก็ได้
.
สิ่งที่ผมประทับใจคือ ตอนที่เดินดูบูธต่างๆในนิทรรศการที่หลากหลายองค์กรจัดแสดงนั้น ก็ไปเจอกับบูธของ 'ทันตแทพยสภา' จึงเดินไปขอแผ่นพับเพื่อเอามาดูว่าสิทธิบัตรทองสามารถทำฟันอะไรได้บ้าง เพราะคุณแม่ของผม (75ปี) แกถอนฟันหมดปากแล้ว ฟันปลอมแบบใส่ถอดได้ที่มีใช้เคี้ยวอาหารไม่ค่อยได้ ครั้นจะไปปรึกษาคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนก็กลัวว่าค่าใช้จ่ายจะสูงมาก
.
โชคดีที่ได้พบกับ'พันโท ทันตแพทย์ ธนศักดิ์ ถัมภ์บรรฑุ' กรรมการและประชาสัมพันธ์ของทันตแพทยสภาที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี จึงสอบถามและได้คำตอบว่าสามารถทำฟันปลอมแบบถอดได้บนรากฟันเทียมด้วยสิทธิบัตรทองตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ได้ เพียงแต่จุดให้บริการและสถานพยาบาลที่มีศักยภาพที่จะทำได้ยังไม่ได้มีทั่วประเทศ จำเป็นต้องรักษากับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐหรือโรงพยาบาลประจำจังหวัด
.
คุณหมอธนศักดิ์จึงแนะนำผมให้กับทาง 'ทันตแพทย์ วิวัฒน์ ฉัตรวงศ์วาน' รองผู้อำนวยการภารกิจด้านวิศวกรรมทางการแพทย์และสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา คุณหมอวิวัฒน์ให้ข้อมูลดีมากและแนะนำให้ผมพาแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลโดยใช้สิทธิตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งผมก็จะทำนัดหมายตามกระบวนการต่อไป
.
ผมดีใจมากครับ พอรู้ว่ามีสิทธิการรักษาพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่ดีแบบนี้ เชื่อว่าแม่ของผมน่าจะได้รับการรักษาและอยู่ภายใต้การดูแลตามระบบที่คนไทยคนหนึ่งจะได้รับจากหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและขอขอบพระคุณผู้ที่เกี่ยวข้องมา ณ โอกาสนี้ด้วย
.
จริงอยู่ที่ช่องว่างหรือGapในปัจจุบัน การรองรับ การจัดการ รวมทั้งการแก้ไขความไม่สมดุลของจำนวนคนไข้และศักยภาพของสถานพยาบาลยังเป็นโจทย์ที่ต้องเร่งแก้ไขต่อไป แต่อย่างน้อย สิ่งที่น่าภูมิใจก็คือระบบสาธารณสุขไทยและบุคลากรในระบบของประเทศเราก็ยังเข้มแข็ง ดูแลชีวิตประชาชนได้อย่างดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
.
ผมขอขอบคุณทันตแพทยสภาและขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอ พยาลบาล เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ทั้งหลายในการทำหน้าที่ รวมทั้งเสียสละเพื่อคนอื่นผ่านเพจ BizKlass นี้ด้วยครับ : )
Comments